ทำไมเราถึงเลิกเรียนดนตรี?
อย่างที่ทราบกันว่า…ดนตรีเป็นวิชาที่ไม่ยาก ไม่ได้มีข้อจำกัดมากนัก แต่ก็ไม่ใช่วิชาที่ง่าย จำเป็นต้องอาศัยความตั้งใจอย่างสม่ำเสมอ เพื่อที่จะให้เรียนได้อย่างประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มักพบว่ามีคนเรียนดนตรีต่อเนื่อจำนวนน้อยลง โดยมักจะหมดไฟไปเสียก่อนที่จะเห็นผลลัพทธ์จากการเรียน เหตุผลสุดคลาสสิกก็คือ
ไม่ใช่ทาง เลยไปเรียนอย่างอื่น เช่น robot ศิลปะ ทำอาหาร (เดี๋ยวนี้ก็มีอะไรให้เลือกเรียนเยอะแยะเหลือเกิน)
เอาเงิน เอาเวลา ไปเรียนวิชาการดีกว่า คุ้มกว่า
ข้อนี้ส่วนมากเราจะมองข้ามไป แต่เป็นข้อที่สำคัญที่สุดคือ ไม่มีแรงบันดาลใจ (motivation) เพราะถ้ามีแรงบันดาลใจมากพอ เราจะหาเงิน หาเวลา ทำทุกอย่างเพื่อมาเรียนต่อให้ได้
รู้สาเหตุแล้ว จะทำยังไงต่อ มาหาคำตอบกันจาก SEMPRE ซึ่งเป็นงาน conference ที่เกี่ยวกับจิตวิทยาและการศึกษาดนตรีในหัวข้อ
How do we motivate young musicians to persist in musical learning despite current education pressure?
(บรรยายโดยคุณ Samantha Caffall, University of York)
แปลแบบเต็มๆ ว่า เราจะจูงใจให้นักดนตรีรุ่นเยาว์เรียนดนตรีต่อกันอย่างไรท่ามกลางความกดดันในการเรียน หรือแปลแบบสั้นๆว่า
“ทำไงไม่ให้เด็กเลิกเรียน”
สิ่งที่น่าสนใจคือ ปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในบ้านเรา แต่ในประเทศเจ้าแม่บอร์ดสอบอย่างอังกฤษก็เช่นกัน ตอนนี้ (เมื่อปี 2020) สถานการณ์ตอนนี้ มีเด็กที่สอบ GCSE Music ลดลงทุกปี เด็กที่สอบ ABRSM ก็ลดลงทุกปี...
Psychologist ได้เสนอแนวคิดว่า การสร้างแรงบันดาลใจและเป้าหมายนั้น มีสองแบบ และต้องทำควบคู่กันไป
อยากเอาชนะตัวเอง เช่น อยากเล่นเก่งขึ้น อยากเล่นเพลงนี้ได้ อยากได้คะแนนมากกว่ารอบที่แล้ว
อยากเอาชนะคนอื่น เช่น อยากเล่นเก่งกว่าเพื่อน
ทีนี้มาดูว่ามีปัจจัยอะไรที่มีความสำคัญต่อการสร้าง motivation บ้าง
Future Aspiration หรือ ตั้งเป้าหมายระยะยาว
ทุกคนต้องมีฝันที่ชัดเจน อยากจะเล่นเป็นงานอดิเรก เล่นเป็นอาชีพ ต้องตั้งเป้า ไม่ควรเล่นไปวันๆไร้จุดหมาย โดยอาจจะเล่นเป็นงานอดิเรก(ที่ตั้งใจทำให้ดี)แล้วพัฒนาเป็นอาชีพก็ได้
หากลองคิดตาม common sense การเรียนดนตรีเหมือนกับการไปวิ่งมาราธอน คงไม่มีใครอยากวิ่งไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็เหนื่อย ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ถึงเส้นชัย แต่เราควรจะมีเป้าหมายแล้วเลือกว่าจะลงวิ่งกี่กิโล ตามสมรรถภาพของเรา
*ทั้งนี้ก็มีอีกแนวคิด คือ ไม่สนใจเป้าหมาย play music for music sake
Musical Identity
เราเชื่อว่าทุกคนมีพรสวรรค์ด้านดนตรีในตัว แต่อาจจะยังไม่ถูกเอาออกมาใช้ หรือยังไม่เจอวิธีที่จะใช้ ก็เลยเกิดปัญหาว่าเรียนดนตรีแล้วไม่ใช่ทาง ดังนั้น ทุกคนต้องมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ต้องหาตัวตนให้เจอ พอหาแนวที่ชอบ เจอทางที่ใช่ ก็จะอยากเล่นต่อไปอีกเรื่อยๆ
ซึ่งปัญหาที่ส่วนใหญ่พบคือ มักจะเลิกเรียนก่อนไปถึงจุดนั้น
Influence จากครอบครัว ครู หรือเพื่อน
สิ่งแวดล้อมที่ดี สำคัญมากๆ ถ้าพ่อแม่มองว่าการซ้อมเปียโนเป็นเหมือนการบ้านวิชาอื่นๆ และให้ความสำคัญอย่างจริงจัง เด็กก็จะเล่นได้ เมื่อเล่นได้การเรียนก็จะเห็นผลและไม่เลิกเรียน
นอกจากการซ้อมแล้ว ยังมีอีกคีย์เวิร์ดที่น่าสนใจคือ “participate more” หมายถึงการเข้าร่วมกิจกรรมทางดนตรี ไม่ว่าจะดูคอนเสิร์ต หรือแข่งขัน (มีงานวิจัยบอกว่า group lesson สามารถ booster class ได้ดีกว่าการเรียนเดี่ยวด้วย)
Music in Social life
การเข้าร่วมสังคม หรือกลุ่ม เช่น การไปแข่ง (healthy competition) จะทำให้เด็กๆได้เจอกับพวกเดียวกัน ทั้งนี้เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคม สุดท้ายเราก็จะอยากอยู่กับคนที่คุยรู้เรื่อง
ยกตัวอย่างง่ายๆ ว่าถ้าเราคนเดียว เป็นนักดนตรีเพื่อนอีก 5 คนในแกงค์เป็นนักบอล ก็เป็นธรรมดาที่เราอยากไปเตะบอลแบบเพื่อน จะได้พูดคุยกับเพื่อนรู้เรื่องนั่นเอง
สุดท้ายใครที่สนใจลองศึกษาเรื่อง Goal Theory เพิ่มเติมได้ มีงานวิจัยเยอะมากๆเรื่อง motivation เพื่อการเรียนดนตรี
Wolters C.A., Taylor D.J. (2012) Goal Theory/Goal Setting. In: Seel N.M. (eds) Encyclopedia of the Sciences of Learning. Springer, Boston, MA. https://doi.org/10.1007/978-1-4419-1428-6_1438