Lessons from Judging Competitors
ห่างหายกันไปนาน ด้วยภาระจากการงานและการเรียน เลยไม่ค่อยได้อัพเดทบทความค่ะ แต่พอดี เข้าปีนี้มา 2 เดือน น่าจะตัดสินงานแข่งไป 3 งาน รวมแล้วน่าจะพันกว่าคน (online+on stage) เลยมีเรื่องอยากมาเขียนเพิ่มเติม
ก่อนอื่น ขอบคุณทางผู้จัดที่ให้เกียรติเชิญไปร่วมตัดสิน ถึงจะเป็นงานที่ดูดพลังมาก เพราะต้องใช้สมาธิในการฟังตลอดเวลา และบางครั้งต้องนั่งนานๆตลอดวัน แต่ก็มีความสุข และสนุกทุกครั้งที่ได้ดูเด็กๆแสดงค่ะ
วันนี้มีเรื่องที่อยากแชร์เผื่อเป็นประโยชน์กับครูหรือผู้ปกครอง ที่กำลังช่วยเด็กๆเตรียมการแข่งขัน 3 ข้อค่ะ
ตื่นเต้นจังทำไงดี
ซ้อมมาแทบตายแต่ตื่นเต้นจนไม่มีสมาธิ
เป็นอีกกรณีที่พบได้เยอะมากๆ ในการแข่งแบบ On Stage ถึงกับว่าในใบคอมเมนต์บางคน ครูเขียนไปเลยว่าเตรียมตัวมาดีแต่ตื่นเต้น ไม่อยากให้เสียกำลังใจและกลับไปฝึกซ้อมจนมั่นใจยิ่งขึ้นนะคะ เพราะเอาจริงๆ กรรมการก็ดูออกค่ะ หลายๆคนพื้นฐานดี แต่มือสั่น กดผิดกดถูก บางครั้งโชคร้ายเล่นผิดแล้วไปต่อไม่ได้ ต้องย้อนท่อนนั้นใหม่ หรือเริ่มใหม่ทั้งเพลง วิธีการแก้ไขอ่านเพิ่มที่ https://pattera.squarespace.com/blogs/stage-fright แต่สิ่งสำคัญมากๆ คือไม่อยากให้เสียกำลังใจค่ะ การซ้อมรับมือความตื่นเต้นก็เป็นแค่อีกทักษะนึงที่เราต้องเรียนรู้ ไม่ต่างอะไรกับการฝึกเทคนิคนิ้ว หัดโน้ตเพลง เราสามารถเรียนรู้ได้ และฝึกฝนพัฒนาได้ค่ะ
Stage Performing
หรือที่คุ้นเคยว่า “ความเจนเวที”
หมายถึงความคุ้นชินและความสามารถในการแสดงบนเวทีอย่างมั่นใจและเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่แค่การเล่นดนตรีให้ถูกต้อง แต่รวมถึงการควบคุมอารมณ์ การสื่อสารกับผู้ชม และการใช้เวทีให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้เทคนิคการบรรเลง และเป็นตัวตัดสินเลยว่าใครจะโดดเด่นกว่ากันในการแข่งขัน
ดังนั้นนอกจากฝึกโน้ตและรายละเอียดอื่นๆได้ครบแล้ว ควรฝึกเรื่องการแสดงบนเวที ตั้งแต่การเดิน โค้ง นั่งบรรเลงอย่างมั่นใจ สง่างาม การสื่อสารเรื่องราวผ่านเสียงโน้ตที่ต้องเล่นอย่างคมชัดกว่าปกติ เพราะในห้องแสดงใหญ่ๆ เปียโนหลังใหญ่ๆนั้นต้องใช้กำลังมากกว่าห้องเรียนปกติ รวมถึงการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เช่น กรณีเล่นผิด กดพลาด หรือมีสิ่งเร้ารบกวนสมาธิ เช่นมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น จะทำอย่างไรเพื่อให้แสดงต่อได้อย่างราบรื่นที่สุด ไม่แสดงสีหน้าหรือท่าทางไม่พอใจ ดังนั้นจึงควรหาโอกาสให้เด็กๆออกแสดงบนเวทีบ่อยๆ เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ รวมถึงหากมีโอกาสดูคอนเสิร์ตบ่อยๆ ดูนักดนตรีอาชีพแสดง ก็จะช่วยให้เด็กๆเข้าใจสถานการณ์ได้ง่ายขึ้น นอกจากนั้นยังแนะนำให้ลองบันทึกคลิปการแสดงของตนเอง เพื่อดูภาพรวมของการแสดงและปรับปรุงแก้ไข ให้มีความเป็นมืออาชีพมากที่สุด เรื่องที่อาจจะดูตลกแต่เกิดขึ้นจริงคือ เด็กบางคนชอบเผลอแลบลิ้น หรือส่ายหัว เวลาเล่นผิด จนติดเป็นนิสัยโดยไม่รู้ตัว พยายามปรับแก้กันไปนะคะ :)
พื้นฐานต้องครบถ้วน
tempo - notes - balance - expression
มากกว่า 70% ของคอมเมนต์ในการแข่งขันมักจะวนเวียนอยู่ที่ 4 เรื่องหลักนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด หากยังไม่สามารถทำข้อนี้ได้ ยังไม่ต้องดูถึง 2 ข้อแรกข้างต้น:
จังหวะไม่สม่ำเสมอ (Tempo)
ความแม่นยำของโน้ต (Notes)
ความสมดุลของเสียง (Balance)
การแสดงอารมณ์เพลง (Expression)
1. Tempo – จังหวะต้องนิ่ง
ปัญหาที่พบบ่อยคือจังหวะไม่คงที่ เปลี่ยนความเร็วระหว่างท่อน หรือระหว่างห้อง
ท่อนที่ง่าย เล่นได้คล่อง จะเล่นเร็ว พอถึงท่อนที่ไม่มั่นใจจะเล่นช้าลงอย่างชัดเจน
หากเป็นเพลงที่มี pattern แบบ alberti bass (เช่น โด ซอล มี ซอล) ที่ส่วนใหญ่มักใช้นิ้ว 5-1-3-1 ซ้ำๆๆตลอดท่อน จนนิ้วอาจจะล้า และควบคุมจังหวะให้เท่ากันสม่ำเสมอไม่ได้
ไม่เคยซ้อมช้าๆ หรือซ้อมรอยต่อระหว่างท่อนที่มีปัญหา
วิธีแก้ไข: ฝึกซ้อมช้าๆ ให้แม่นก่อน แล้วค่อยเพิ่มความเร็ว ใช้ metronome และหาสาเหตุของปัญหาให้พบ เช่น เป็นที่เรื่องความเข้าใจจังหวะ หรือ จุดที่ย้ายมือ และอื่นๆ
2. Notes – โน้ตต้องแม่น
การกดโน้ตผิดพลาด หรือ running notes เละเทะ ทำให้บทเพลงขาดความคมชัดและความไพเราะ ปัญหานี้มักเกิดจาก:
การอ่านโน้ตผิด หรือจำผิดจากการซ้อม หรือที่น่าเสียดายคืออาจจะใช้โน้ตจาก internet ที่ไม่ใช่ต้นฉบับที่ถูกต้อง แนะนำให้ใช้โน้ตจากสำนักพิมพ์ที่เชื่อถือได้ หรือลองฟังเพื่อตรวจสอบกับ YouTube หรือ streaming อื่นๆ ที่มีนักดนตรีอาชีพบรรเลงไว้ค่ะ
การใช้นิ้วที่ไม่เหมาะสมกับตัวเอง ทำให้ควบคุมการเล่นไม่ได้ดีเท่าที่ควร
การเร่งความเร็วมากเกินไป เกินความจำเป็น (บางเพลงไม่จำเป็นต้องเล่นเร็วที่สุดขนาดนั้น)
วิธีแก้ไข: ซ้อมแบบช้าๆ , ตรวจสอบนิ้วให้เหมาะสม, และฟังตัวเองอย่างละเอียด ไม่ปล่อยให้ตัวเองซ้อมแบบเละๆไปเรื่อยๆ เพราะเป็นการสร้าง muscle memory ที่ผิดซ้ำๆ
3. Balance – สมดุลของเสียงต้องดี
เสียง top notes ไม่ชัด หรือดังเบาไม่สมดุล เช่น แนวคอร์ดในมือซ้าย ดังกลบทำนองในมือขวา ทำให้ผู้ฟังจับใจความสำคัญของเพลงไม่ได้ สาเหตุเกิดจาก:
ไม่สามารถควบคุมน้ำหนักนิ้วมือซ้าย-ขวาได้ดี
ซ้อมโดยไม่ได้ฟังความแตกต่างของดังเบา
ไม่คุ้นเคยกับการเล่นบนเปียโนหลังใหญ่
วิธีแก้ไข: ฝึกการควบคุมดังเบา โดยให้มือขวาเด่นชัดขึ้น รวมถึงการฝึก coordiation ของมือทั้งสองข้าง , ลองซ้อมบนเปียโนหลายๆหลัง และตั้งใจฟัง balance ของตัวเองทุกครั้งที่เล่น หรือบันทึกเสียงเพื่อฟังตัวเองเล่นก็ได้ค่ะ
4. Expression – การสื่ออารมณ์ต้องชัดเจน
ปัญหาหลักคือ ดังก็ไม่ดัง เบาก็ไม่เบา ประโยคเพลงไม่ชัด ทำให้การเล่นขาดมิติ สาเหตุหลักมาจาก:
ไม่เข้าใจบทบาทของ dynamic และ phrasing
คุ้นชินกับการเล่นในห้องซ้อมที่มีขนาดเล็ก ทำให้ไม่ต้องออกแรงมาก
ไม่คุ้นเคยกับการต้อง "overact" บนเวทีใหญ่
ลองนึกถึงการดู musical ใน theatre ขนาดใหญ่ ถ้านักแสดงร้องไห้เงียบๆ บนเวที คนดูแถวหลังอาจไม่รู้สึกอะไรเลย ดังนั้นนักแสดงต้องขยายการแสดงออกให้ชัดขึ้นเพื่อส่งอารมณ์ถึงผู้ชม เปียโนก็เช่นกัน – ต้องทำให้ dynamic และ articulation เด่นชัดขึ้น เพื่อให้คนฟังรับรู้ได้ครบถ้วน
วิธีแก้ไข: ฝึกเล่นในห้องที่ใหญ่ขึ้น, ทดลอง exaggerate dynamics ขณะซ้อม ทำทุกอย่างให้เว่อร์ๆ แล้วค่อยลดทอนลงให้เหมาะสม และฟังการเล่นของตัวเองจากมุมมองของผู้ฟัง หรือบันทึกเสียงตอนตัวเองซ้อม(อีกแล้ว) นั่นเอง
นอกจาก 3 ข้อข้างต้น อีกหนึ่งเรื่องที่คิดว่าเป็นประโยชน์สำหรับคุณครู คือการไปนั่งฟังการแข่งขัน ซึ่งอาจจะทำได้ยากสำหรับคุณครู เพราะโดยปกติครูคงไม่สามารถลาสอนไปเชียร์นักเรียนแข่งทุกครั้งได้ (เพราะอาจจะไม่แฟร์ กับนักเรียนที่ไม่ได้แข่งเหมือนกัน) แต่อย่างน้อย อยากให้ลองจัดเวลาไปดูปีละ 1-2 ครั้งก็ยังดีค่ะ เป็นการอัพเดทเพลงใหม่ๆที่น่าสนใจ + ลองนั่งให้คะแนนตาม แล้วดูว่าผลการตัดสินสอดคล้องกับแนวทางของเราไหม เป็นการรีเช็คตัวเองไปด้วย โดยส่วนตัวถือโอกาสนี้ตามไปเชียร์นักเรียนเวลาแข่งต่างประเทศเพราะอยากไปดู trend การแข่งของประเทศต่างๆ ไปดูว่าเด็กอายุประมาณนี้ เล่นเพลงยากขนาดไหนบ้าง รวมถึงถือโอกาสเที่ยวไปด้วย 555
ปัจจุบันนี้งานแข่งเยอะมากๆ ทั้งในไทย และต่างประเทศ อยากให้พูดคุย วางแผนกันระหว่างนักเรียน ผู้ปกครอง คุณครู และเลือกสมัครในโอกาสที่คิดว่าตอบโจทย์เรา (ไม่ว่าจะเป็นบริบทอะไรก็ตาม เช่น ช่วงนี้รีบเก็บ portfolio, อยากหาเวทีซ้อมมือก่อนไปแข่งเวทีใหญ่, อยาก Push ความสามารถนักเรียน และอื่นๆ) เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้เรียนมากที่สุดค่ะ หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย และขอให้ทุกคนโชคดีกับการแข่งขันค่ะ :)